รีวิว แนะนำ แหล่งท่องเที่ยวเชียงราย และกิจกรรมต่างๆ สถานที่สำคัญของเชียงราย ประวัติศาสตร์ล้านนา ประวัติศาสตร์ของแต่ละจังหวัด แล้วท่านจะรู้ที่มาที่ไปของแต่ละชื่อแต่ละเมือง เช่น แม่สาย เชียงแสน ดอยตุง ดอยช้าง ภูชี้ฟ้า สามเหลี่ยมทองคำ กษัตริย์ล้านนา

Custom Search

เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค ปี ๒๕๕๖

เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค ปี ๒๕๕๖

"เทศกาลเที่ยวไทย ๕ ภาค ปี ๒๕๕๖" มหกรรมท่องเที่ยวที่รวมของดีจากทุกภาคเดินสายอวดของดีใกล้บ้านคุณ

ภาพจาก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เพราะฉะนั้น จึงไม่ควรพลาดนะครับ ที่จะไปเที่ยว ในแหล่งท่องเที่ยวใกล้บ้านของตนเอง จะได้พาครอบครัว หรือเพื่อฝูงไป เพื่อจะได้มีความสุขความกัน ในทุกเทศกาล เป็นไปเพื่อครอบครัว

การท่องเที่ยวในประเทศ เป็นเรื่องทีดี ดูอย่างประเทศจีน ไปไหนมาไหน ก็คนจีนเต็มไปหมด เพราะเขาต้องการไปเที่ยวภูมิภาคต่างๆ ด้วยความต้องการอยากเห็น และไปเยี่ยมชม

ส่วนที่พัก โรงแรมต่างๆ ไม่ใช่เรื่องที่น่าเป็นห่วง เพราะว่า ประเทศไทยเรา ทุกแห่ง มีความพร้อม ที่จะรับแขกผู้มาเยือนทุกระดับประทับใจอยู่แล้ว

จุดผ่านแดนจังหวัดเชียงรายชายแดนไทย-ลาว-พม่า


ข้อมูลน่ารู้จาก ททท : จุดผ่านแดนจังหวัดเชียงรายชายแดนไทย-ลาว-พม่า  

จุดผ่านแดน

จุดผ่านแดนจังหวัดเชียงรายมี 3 จุด คือ  


1. ด่านอำเภอเชียงแสน ฝั่งตรงข้ามคือด่านเมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากอำเภอเมืองเชียงราย 60 กิโลเมตร ตั้งอยู่ที่บริเวณท่าเรือหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงแสน เป็นจุดเดินทางท่องเที่ยวตามลำน้ำโขงโดยทางเรือไปถึงเชียงรุ้ง สิบสองปันนาจีนตอนใต้ 

2. ด่านอำเภอเชียงของ ฝั่งตรงข้ามคือด่านเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ห่างจากอำเภอเมืองเชียงราย 114 กิโลเมตร ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือบั๊ก เป็นจุดข้ามไปท่องเที่ยวเมืองห้วยทราย และเดินทางตามลำน้ำโขงโดยทางเรือไปถึงหลวงพระบางและเวียงจันทน์ สปป.ลาว แล้วกลับเข้าประเทศไทยที่จังหวัดหนองคาย (เรือเร็วออกเดินทางช่วงเช้า นั่งได้ 5 คน ๆ ละ 800 บาท ใช้เวลา 5 ชั่วโมง เรือสินค้าออกเดินทางช่วงบ่ายคนละ 300 บาท ใช้เวลา 2 วัน 1 คืน)

3. ด่านอำเภอแม่สาย ฝั่งตรงข้ามคือด่านท่าขี้เหล็ก สหภาพพม่า ห่างจากอำเภอเมืองเชียงราย 60 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง ตั้งอยู่เชิงสะพานข้ามแดนไทย-พม่า เป็นตลาดชายแดนไทย-พม่า และเป็นจุดเดินทางท่องเที่ยวไปเชียงตุงได้ โดยทางรถยนต์ หนังสือเดินทางสำหรับการเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในลาว-พม่า

1. หนังสือเดินทาง (Passport) สำหรับประชาชนทุกสัญชาติที่มีวีซ่า สปป.ลาว-สหภาพพม่า สามารถเดินทางท่องเที่ยวทั่วประเทศทั้งสองได้เป็นเวลา 15 วัน

2. หนังสือผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) สำหรับประชาชนสัญชาติไทยที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทยใช้ผ่านแดนได้เพียงครั้งเดียว รวมทั้งให้บุตรที่อายุไม่เกิน 12 ปี มีชื่อร่วมอยู่ในหนังสือผ่านแดนนี้ได้ด้วย อนุญาตให้พำนักอยู่ในพื้นที่ชายแดน แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ได้ 3 วัน และเข้าเมืองท่าขึ้เหล็ก สหภาพพม่าได้ 7 วัน (เข้าจุดไหนต้องออกจุดนั้นและหากเดินทางออกนอกพื้นที่ชายแดนตามที่ได้ระบุไว้นี้ จะต้องได้รับโทษตามกฎหมายของ สปป.ลาวและสหภาพพม่า) 

2.1 เอกสารที่ต้องใช้ สำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หรือบัตรอื่น ๆ ที่ทางราชการออกให้ ถ้าเข้าสปป.ลาว ต้องใช้รูปถ่ายขนาด 1 นิ้ว จำนวน 2 รูป และค่าแบบฟอร์ม 15 บาท สำหรับสหภาพพม่าไม่ต้องใช้รูป

2.2 สถานที่ขอหนังสือฯ ขอได้ที่ ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน อำเภอเชียงของ และสถานที่ที่จังหวัดกำหนด สำหรับอำเภอแม่สายขอได้ที่ทำการเอกชนที่ได้รับอนุญาตจากอำเภอแม่สายแล้ว หรือติดต่อชมรมบัตรผ่านแดนอำเภอแม่สาย โทร. (053) 642636


ที่มา :การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2556


สวัสดีครับ ช่วงนี้เป็นช่วงปีใหม่ แอบหวังลึกๆ ในใจอยู่ว่า จะมีคนขึ้นมาเที่ยวที่เชียงรายกันเยอะๆ เพราะคิดว่าที่นี่ นอกจากจะเป็น แหล่งท่องเที่ยว แล้วยังเป็นที่ที่ทำให้คุณได้สัมผัสกับความหนาวเย็น อย่างที่หวังกันไว้ เนื่องจากการอยู่ในกรุงเทพฯ ทำงานเยอะ ไม่ค่อยได้ไปเที่ยว เมื่อมาเยือนเชียงรายแล้ว  ก็ต้องได้สัมผัสกับสิ่งเหล่านี้แน่นอน

หากใครหาแหล่งที่พักยังไม่ได้ ก็อาจจะหารายชื่อ โรงแรม ในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ อะไรเหล่านี้ก็ยังได้อยู่ อาจจะหาทางอินเทอร์เนต เว็บไซต์ของโรงแรม หรือ สมุดหน้าเหลือง ก็ยังได้ 

ที่กล่าวถึงแหล่งที่พัก ไม่ได้หมายถึงโรงแรมแต่เพียงอย่างเดียวนะครับ หมายรวมถึง รีสอร์ต และ โฮมสเตย์ ซึ่งเป็นที่พักที่สุดแสนจะเป็นส่วนตัว จะได้สัมผัสกับธรรมชาติ และความเป็นอยู่ของชาวบ้าน

แหล่งท่องเที่ยวของภาคเหนือมีหลายหลายที่ สามารถหาดูได้ในเว็บนี้นะครับ อย่างเชียงรายเอง ก็มีหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น วัดร่องขุ่น บางคนก็เรียกว่า วัดขาว ซึ่งสร้างโดยศิลปินแห่งชาติ อ.เฉลิมชัย โกษิตพิพัฒน์ บ้านศิลปินแห่งชาติอีกท่านคือ อ.ถวัลย์ ดัชนี เรามักเรียกกันอีกแบบว่า บ้านดำ นอกจากนั้นยังมีแหล่งศิลปะให้ได้ชมอีกมากมาย

แหล่งท่องเที่ยว ของภาคเหนือ ทั้งที่เป็นจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน หรือ จังหวัดอื่นๆ ก็ตาม ต้องไม่พลาดการไปนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมีอยู่ทุกจังหวัด แต่ความนิยมก็แล้วแต่แต่ละบุคคลก็แล้วกัน

การมาเที่ยวด้วยรถส่วนตัว ก็นับว่าสะดวกดีอยู่ไม่น้อย เพราะสามารถแวะพักชมวิวที่ไหนก็ได้ แต่หลายท่าน ก็คงจะมาโดยสายการบินต่างๆ แล้วแต่ว่าจะจองตั๋วเครื่องบินตั้งแต่เมื่อไร หากจองไว้นาน หรือ ได้ราคาโปรโมชั่นก็ ได้ซื้อตั๋วราคาถูก กันละ แต่หากมัวใจเย็น ก็อาจจะต้องซื้อตัวเครื่องบินในราคาที่แพงเอาการเลยทีเดียว

เอาละวันนี้ เพียงอยากจะมาส่งข่าวว่า เมื่อมาเที่ยวเมืองเหนือแล้ว ก็ขอให้สะดวก มีความสุข ปลอดภัยด้วย 

และขออำลาปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2556 แด่ทุกท่านด้วย ไว้เจอกันคราวหน้า ขอบคุณครับ

เทศบาลนครเชียงรายพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว



เทศบาลนครเชียงรายพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว เปิดฤดูการท่องเที่ยวนครดอกไม้งามอย่างยิ่งใหญ่


เชียงรายดอกไม้งาม

         เทศบาลนครเชียงราย เปิดฤดูแห่งการท่องเที่ยวจัดงาน “นครเชียงราย นครแห่งดอกไม้งาม” พร้อมจัดกิจกรรมท่องเที่ยวต่อเนื่องถึงปีหน้า ต้อนรับทัพนักท่องเที่ยวอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ณ สวนตุงและโคมนครเชียงราย

       นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย กล่าวว่า “เข้าสู่ฤดูหนาวปลายปีนี้ พื้นที่ภายในเขตเทศบาลนครเชียงรายจะเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ ในการต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้บริการแก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพักผ่อนในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะพื้นที่หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเทศบาลฯ ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานวัดวาอารามต่างๆ รวมถึงหอนาฬิกาเฉลิม พระเกียรติฯ ที่ออกแบบก่อสร้างโดย อาจารย์ ดร.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัด ในขณะเดียวกันนายวันชัยฯ นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้เร่งดำเนินการปรับปรุงสถานที่สำคัญต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณสวนตุงและโคมนครเชียงรายฯ ซึ่งจะเป็นสถานที่จัดงานและกิจกรรมต่างๆ ด้วยการตกแต่งและประดับด้วยพันธุ์ไม้สวยงามนับล้านต้นรวมถึงการประดับตกแต่งถนนหนทาง อาคารบ้านเรือนด้วยพันธุ์ไม้นานาพันธุ์ ซึ่งคาดว่าจะเป็นที่ประทับใจสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาในช่วงนี้อย่างแน่นอน”

         แหล่งข่าวแจ้งว่า เทศบาลฯ ได้กำหนดแผนงานการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีนี้ให้มีความยิ่งใหญ่มากกว่าทุกๆ ที่ผ่านมา โดยจะมีการเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ที่ 23 พฤศจิกายน 2555 ณ บริเวณลานอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช เป็นสัญญาณแรกเริ่มในการเปิดฤดูแห่งการท่องเที่ยว ประกอบกับเพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมระดับนานาชาติ สามารถตอบสนองและรองรับการประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เทศบาลนครเชียงราย กำหนดจัดงาน “วัฒนธรรมสัมพันธ์ลุ่มน้ำโขง ครั้งที่ 17” ควบคู่ไปกับการจัดงาน “ลอยกระทง 4 ชาติ” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2555 และที่สำคัญในวันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม 2555 จะเป็นการเปิดฤดูแห่งการท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ ภายใต้ชื่องาน “นครเชียงราย นครแห่งดอกไม้งาม” ณ บริเวณสวนตุงและโคมเชียงรายเฉลิมพระเกียรติฯ และนอกจากนี้ เทศบาลนครเชียงรายได้จัดการแสดง “ดนตรีในสวน” ณ ลานดอกไม้สวนตุงและโคมฯ ในทุกวันเสาร์โดยเริ่มวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 16.00 น. รวมถึงการได้รับเกียรติจากอาจารย์เฉลิมชัย  โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงรายมาร่วมสร้างสรรค์งานแสดงศิลปะ      ณ บริเวณอนุสาวรีย์พ่อขุนเม็งรายมหาราช และหอนาฬิกาเฉลิมพระเกียรติฯ ให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมผลงานศิลปะที่ทรงคุณค่า และในวันสิ้นปี พ.ศ.2555 ด้วยการจัดงาน เฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่   พ.ศ.2556 อย่างยิ่งใหญ่พบการแสดงศิลปินชื่อดังมากมาย ณ บริเวณถนนบรรพปราการ

        นายวันชัยฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “กิจกรรมที่เทศบาลฯ จัดขึ้นทั้งหมดนี้นอกจากจะเป็นการเพิ่มระยะเวลา การเข้าพักของนักท่องเที่ยว สามารถสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายให้มีความยิ่งใหญ่และเป็นที่ประทับใจแก่นักท่องเที่ยวอย่างไม่รู้ลืม”



ขอบคุณข้อมูล จากงานประชาสัมพันธ์เทศบาลนครเชียงราย

งานแสดงสินค้าภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง



วันนี้ ขอนำเอางานแสดงสินค้าภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง มาบอกกล่าว เผื่อว่า มีผู้ที่อยากมาเที่ยวเชียงราย ในเวลาดังกล่าว จะได้มาให้ถูกเวลา
งานแสดงสินค้าภาคเหนือและอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง

งานแสดงสินค้าภาคเหนือ
และอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

18 - 23 SEP 2012
ณ ฝูงบิน 416 เชียงราย

หลักการเหตุผล

-กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 และกลุ่มประเทศ GMS จัดงานแสดงและจำหน่ายสินค้ภายใต้ยุทธศาสตร์ พัฒนาการค้า การลงทุน และโลจิสติกส์ เพื่อส่งเสริม สร้างโอกาสและ เชื่อมโยงตลาดสินค้าและบริการที่มีศักยภาพกระตุ้นเศรษฐกิจ ของกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2

ประเพณีปีใหม่ (การกินวอ)ของ ลาหู่ (มูเซอ)

ลาหู่ คำนี้เป็นชื่อของชนเผ่ากลุ่มหนึ่ง ซึ่งปกติจะอาศัยอยู่บนภูเขา ในอดีตคนพื้นราบโดยทั่วไปมักจะเรียกคนกลุ่มนี้ว่า "มูเซอ" แต่ว่า ในระยะต่อมาก็ได้เรียกกันจนเป็นที่รับรู้ว่าเป็นชนเผ่า "ลาหู่"

การเฉลิมฉลองปีใหม่ ในภาษาลาหู่(มูเซอ) เรียกว่า ประเพณี เขาะเจ๊าเว ซึ่งแปลว่า "ปีใหม่การกินวอ" ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่บรรดาญาติมิตร ได้กลับมาร่วมงานกันที่บ้านอย่างพร้อมเพรียงเรียงหน้า ไม่ว่าจะอยู่ใกล้ไกลเมื่อทราบว่าทางหมู่บ้านตัวเองจะจัดงานดังกล่าวก็จะกลับมาร่วมกัน เทศกาลของลาหู่ค่อนข้างจะมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง แตกต่างจากชนเผ่าอื่นๆ ซึ่งปีใหม่หรือการกินวอนี้ มีความสำคัญต่อชาวลาหู่อย่างยิ่ง เพราะเป็นประเพณีที่เกี่ยวเนื่องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของเผ่าเสียเป็นส่วนมาก สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวคราวเรื่องดังกล่าวได้จากสื่อต่างๆ ส่วนมากแล้วชนเผ่านี้จะอาศัยอยู่จังหวัดต่างๆ ทางภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ แพร่ เป็นต้น

ประวัติ/ความเป็นมาของอำเภอเวียงป่าเป้า 2 รายชื่อนายอำเภอเวียงป่าเป้า

ประวัติ/ความเป็นมาของอำเภอเวียงป่าเป้า 2 : รายชื่อนายอำเภอเวียงป่าเป้า

ตอนที่ 2 นะครับ

หลังจากที่ห่างหายไปนาน วันนี้ขอนำประวัติ ความเป็นมาของอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย มีลงอีกครั้ง เผื่อว่า มีผู้ต้องการจะนำเอาเนื้อหาเหล่านี้ไปใช้ อันจะเป็นประโยชน์ต่อการเผยแพร่ และบันทึกเรื่องราวด้านประวัติศาสตร์หรือบันทึกสถานการณ์ต่างๆ แม้ว่าในปัจจุบัน เราอาจจะไม่สามารถมองเห็นประโยชน์ ของการจดบันทึกประวัติศาสตร์ แต่ถ้าดูตัวอย่างจากประเทศตะวันตก หรือ แม้แต่ประเทศจีน ซึ่งมีอักษรใช้เป็นเวลานั้น พร้อมกับการมีนิสัยชอบจดบันทึก จึงทำให้ประเทศต่างๆ ได้อาศัยการจดบันทึกหรือจดหมายเหตุเหล่านั้น มาร้อยเรียงให้คนรุ่นใหม่ได้เทียบเคียงและรับรู้ อันเป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติเป็นอย่างยิ่ง

เอาละ ร่ายมาพอสมควร ขอต่อเรื่องประวัติหรือความเป็นมาของอำเภอเวียงป่าเป้าเลยนะครับ

จากอดีตสู่ปัจจุบัน

ที่ว่าการอำเภอเวียงป่าเป้า ตั้งแต่ได้รับการยกฐานะเป็นกิ่งอำเภอ ได้ทำการก่อนสร้างอาคารที่ว่าการหลังแรกเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว อาศัยเป็นที่ปฏิบัติราชการตลอดมา ประมาณปี พ.ศ. 2475 อาคารที่ว่าการอำเภอชำรุดมาก ขุนบวรอุทัยธวัช ซึ่งเป็นนายอำเภอขณะนั้น ได้ทำการก่อนสร้างที่ว่าการอำเภอขึ้นใหม่ โดยสร้างเป็นตึก 2 ชั้น ก่ออิฐถือปูน แต่พอเริ่มดำเนินการก่อสร้างไปเพียงเล็กน้อย ขุนบวรอุทัยธวัช ได้ประสบอุบัติเหตุตกม้าถึงแก่ชีวิต ขุนพิพัธสุขอำนวย นายอำเภอคนต่อมา จึงได้ดำเนินการก่อนสร้างต่อและเสร็จสมบูรณในสมัยของ ขุนสุขจิตสมบัติศิริ และได้ใช้เป็นที่ว่าการอำเภอจนถึงเดือนเมษายน 2542

เนื่องจากสภาพอาคารที่ว่าการหลังที่ 2 ชำรุดทรุดโทรมประกอบกับภารกิจในการให้บริการประชาชนมีมากขึ้น นายประสิทธิ์ บุญวัฒน์ นายอำเภอเวียงป่าเป้า จึงมีการพิจารณาจัดหาที่ดินและเสนอของบประมาณจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เพื่อจัดสร้างอาคารหลังใหม่ โดยได้รับงบประมาณตามโครงการเงินกู้พิเศษเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ประจำปีงบประมาณ 2542 จำนวนเงิน 7,827,000 บาท ทำสัญญาจ้างกับบริษัท คิว เอส ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2542 กำหนดแล้วเสร็จ วันที่ 12 พฤษภาคม 2543 มีลักษณะอาคารกว้าง 24 เมตร ยาว 56 เมตร สูง 3 ชั้น ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง ตามแบบแปลนของกรมโยธาธิการ เลขที่ ม.18155 โดยทำการก่อนสร้างบริเวณพื้นที่ที่จัดซื้อเพิ่มเติมบริเวณหลังอาคารหลังเก่า ในเนื้อที่ 2 ไร่ 1 งาน 45 ตารางวา ได้รับงบประมาณในการจัดซื้อที่ดินจากองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง 7 แห่ง (อบต.สันสลี, เวียง, บ้านโป่ง, ป่างิ้ว, เวียงกาหลง, แม่เจดีย์, แม่เจดีย์ใหม่) เป็นเงิน 240,000 บาท

ขอวางเรื่องประวัติอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ไว้เท่านี้ก่อนนะครับ และจะขอแถมให้โดยการนำเอารายนาม หรือถ้าตามประสาชาวบ้านเราก็คือ รายชื่อของนายอำเภอ ที่ได้มาประจำตำแหน่งอยู่ที่นี่ตั้งแต่อดีต มาจนถึงปัจจุบันมาลงให้ได้อ่านกันต่อครับ

รายชื่อ(รายนาม) ของนายอำเภอ ที่ได้มารับตำแหน่งอยู่ที่ อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย แห่งนี้ ได้ตั้งใจนำมาลงไว้ในเว็บนี้ เพื่อเป็นการบันทึกเป็นข้อมูลสถานการณ์หรืออนาคตก็จะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน เชิญทัศนาครับ

รายนามนายอำเภอเวียงป่าเป้าตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

     หลวงอุดรนันทาการ
     พระยาอภิรักษ์หิรัญกิจ
     นายสมบูรณ์ อินทราวรรณ์
     นายมิ่ง จารุชาติ
     ขุนพิทักษ์โกวิราวรรณ์
     นายกรี มังตรีสรรค์
     ขุนสิทธดิสัยรักษ์
     หลวงปราณีนรากร
     ขุนบวรอุทัยธวช
     ขุนพิพิธสุขอำนวย
     ขุนสุจิตต์สมบัติศิริ
     ขุนพานบุรารักษณ์
     นายจริญ ธนะสังข์
     นายกมล สุทธนะ
     นายสว่าง พรหมปฏิม
     นายอุดม ศิริทัศนากุล
     นายภักดี สุนทรางกูร
     นายสัย เวศพันธ์
     นายเคลื่อน ศิริพันธ์
     นายทิวา พูลสมบัติ
     นายจรัส ฤทธิ์อุดม
     นายศรีพงศ์ อยู่มั่น
     นายโยธิน พร้อมเพรียง
     นายทรงศักดิ์ ตันติวัฒนา
     นายประกิต สุมันตกุล
     นายวิวัฒน์ ศรีสังวาล
     นายสุรพล มหาวัจน์
     ร.ต.จำเนียร นาจริง
     นายบงการ ลิมปะพันธุ์
     นายเนติ อวิรุทธนานนท์
     นายวิศิษฐ์ สิทธิสมบัติ
     นายสนิท ผู้แสงทอง

นี่เป็นรายนามนายอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย ทั้งหมด ซึ่งเราถือว่าเป็นตัวแทนจากรัฐบาลส่วนกลางได้มาทำหน้าที่ดูแลและบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชน และท่านเหล่านี้ก็เป็นผู้นำทางด้านการปกครองในอำเภอ เพื่อให้การดำเนินการต่างๆ เป็นไปได้ด้วยดี ต้องขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วย




บทความที่เกียวข้อง
ประวัติความเป็นมาของอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย 1